พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระพุทธชินราชเข...
พระพุทธชินราชเข่าจม(เข่าราบ) หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
พระพุทธชินราชเข่าจมนั้นเชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อราวปี 2480 และได้มีการสร้างขึ้นอีกหลายครั้ง จึงพอแบ่งช่วงการสร้างออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกคือปี 2480 ถึงปี 80 กว่าๆ และช่วงกลางว่ากันว่าราวปี 2490 กว่า และอีกครั้งคือหลังปี 2500 ที่ชัดเจนที่สุดคือที่ได้บรรจุกล่องพระชุดปี 2517

พระพุทธชินราชเข่าจมนั้นเป็นพระที่ว่ากันว่ามีการสร้างกันภายในวัดดอนยายหอม โดยวิธีหล่อช่อ อาศัยโลหะที่เหล่าชาวบ้านได้บริจาคให้กับหลวงพ่อเงิน เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ที่ลงแรงและลงทรัพย์ในการจัดสร้างโบสถ์วัดดอนยายหอม จึงทำให้เนื้อหาแต่ละองค์ค่อนข้างจะต่างกันไป โดยแต่ละครั้งที่สร้างหลวงพ่อจะสร้างไม่เยอะนัก ได้พระเป็นหลักสิบหรือน้อยเศษในแต่ละครั้งเท่านั้น

พุทธลักษณะด้านหน้าเป็นพระพุทธปางมารวิชัย นั่งบนฐานบัวมีเปลวรัศมีคล้ายพระเพลิงปกคลุมอยู่ ด้านหลังจะปรากฏยันต์ทั้งหมด 4 ตัว คือ ตัวอุณาโลมที่อยู่บนสุด มีตัว มิ อยู่ใต้อุณาโลม และแถวสุดท้ายสองตัวคือตัว นะ นะ รูปทรงมีทั้งแบบทรงน้ำเต้าสามชั้นยอดแหลม และแบบสามเหลี่ยม ขอบข้างมีรอยประกอบ และที่ก้นจะมีรอยตะไบหยาบทุกองค์

เนื้อหาเป็นโลหะผสมออกหลายวรรณะ ซึ่งขอแบ่งในหมวดแยกแยกยุค ซึ่งจากที่ถามเซียนสายนครปฐมมา 3-4 คน เขาก็แยกพระยุคต้นหรือในช่วงปี 80กว่า กันหลายแบบ เช่นบางคนว่ายุค 80 กว่าๆ ต้องมีจุดที่บริเวณหน้าอกพระพุทธและต้องเป็นโลหะผิวออกแดงเข้ม เพราะพระยุคกลางจะมีจุดเช่นกันแต่สีผิวออกเหลือง เนื่องจากช่วงแรกที่จัดสร้างได้รับบริจาคโลหะพวกทองแดงมามาก ส่วนช่วงปี 9 กว่านั้นได้โลหะที่เหลือจากการสร้างโบสถ์และพระประธานมาเยอะทำให้แก่ทองเหลือง ในขณะที่อีกทางหนึ่งว่ายุคแรกจะมีจุดหรือไม่มีจุดก็ได้ แต่องค์พระต้องล่ำหนา และลึกไม่ตื้น ที่สำคัญต้องเนื้อออกแดงเข้ม ดังนั้นผู้เขียนพอสรุปได้ว่ายุคแรกต้องวรรณะออกแดงเข้มไว้ก่อน พระต้องล่ำและลึก ส่วนเรื่องจุดขอไม่ยืนยันไว้ผู้มีความรู้มาแจ้งแถลงไขให้ดีกว่า (อนึ่งหลายครั้งที่เห็นเซียนมันจะบอกว่าพระในมือต้นเองเป็นยุคต้น แม้เนื้อจะไม่สีแดง ตรงนี้ผมจึงขออนุญาตไม่ยืนยันข้อมูลนัก ทั้งหมดเป็นการถามจากพรรคพวกที่พอเป็นเซียนครับ)

ส่วนพระยุคกลางก็น่าจะลึกล่ำและวรรณะสีออกเหลือง ส่วนยุคท้ายเท่าที่เคยเห็นจะตื้นและองค์พระดูผอมบางและใบหน้าเรียวกว่า ส่วนผิวก็มีทั้งแบบทองเหลืองและออกขาวพรายคล้ายปรอท ส่วนตัวผมว่ายุคปลายที่ผิวเป็นพรายปรอทก็งามน่าใช้นะครับ ที่สำคัญราคาถูกดีด้วยตอนนี้ที่วัดดอนยายหอมเองยังเหลืออีกองค์ 2 องค์ ให้เช่าทำบุญในราคาองค์ละหนึ่งหมื่นบาทเท่านั้น

นอกจากนี้เองยังมีชินราชเข่าจมเนื้อแร่หรือเนื้อโลหะดิบที่มิได้ผ่านการถลุงมาก่อน ซึ่งเนื้อเหล่านี้จะแกร่งแต่เปราะ ซึ่งทั้งทางวัดและวงการยอมรับว่ามีการสร้างจริง เล่นหากันเป็นชิ้นเป็นอัน หายากกว่า แต่ราคาพอๆ กันคับ

อนึ่งชินราชเข่าจมเนื้อเมฆพัตนั้นอาจจะมีหลายท่านได้เคยพอเห็นมา คือเป็นชินราชเข่าจมเนื้อดำมัน แต่เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่เซียนสายตรงอยู่ว่า ชินราชเข่าจมเนื้อเมฆพัตนั้น มีออกที่วัดหรือไม่ บ้างว่าไม่มีออกเลย บางว่ามีออกมาในยุคหลัง ดังนั้นจึงต้องไม่มีจุดที่หน้าอก แต่ส่วนตัวผู้เขียนเคยเห็นแบบที่มีจุดที่หน้าอก และหันซ้ายหันขวาก็น่าจะดีและแท้ แต่เขาว่ากันว่าอุปโลกน์ขึ้นมา ส่วนตัวผมขอไม่ออกความเห็นอะไรครับ ไม่ทราบจริงๆ และขออภัยหากการให้ข้อมูลนี้บางท่านอาจไม่ชอบใจ เป็นการว่ากันไปตามข้อมูลของเซียนสายนี้เขาว่ากันครับ

ในส่วนของชินราชเข่าจมพิมพ์สองหน้าก็มีเช่นกัน แต่หายากมากเรียกได้ว่ายากกว่าชินราชเข่าลอยสองหน้าเสียอีก เพราะส่วนตัวเคยพบเห็นแค่ครั้งเดียว จีบเขาไปที่ ห้าหมื่นก็ยังนิ่ง(ราคาเข่าจมตอนนั้นว่ากันที่พันปลายเท่านั้นเอง) และอีกทีก็มีพี่ท่านหนึ่งในเว็บสยามอมูเล็ทเรานี่เองที่เคยมาแจมลงโชว์ไว้ พยายามจีบแต่ไม่กล้ามากเกรงใจพี่ท่าน หวังว่าหากท่านได้แวะเข้ามาชมจะได้ลงโชว์อีกสักครั้งเป็นบุญตาครับ

สนนราคา ต้องยอมรับว่าชินราชเข่าจมนั้นขยับตัวช้ากว่าพระหล่อโบราณของหลวงพอเงินอยู่มาก ราคาปัจจุบัน หากเป็นพระยุคต้นและยุคกลาง(ไม่รู้จะแยกต้นกับกลางทำไม ราคาก็เท่าๆ กัน) งามๆ ไปหยุดที่ราวสองหมื่นกว่าบาท หากมีบุกกันเกินไปบ้างกับองค์ที่งามและเจอผู้ที่ชอบอย่างแท้จริง แต่กระนั้นส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ราวหมื่นเศษเท่านั้น ส่วนองค์ที่หย่อนงามหรือยุคปลายก็อยู่ที่ราวพันกลางถึงพันปรายเท่านั้นเอง ถือว่าเป็นพระดีที่หามาครอบครองได้โดยไม่แพงนัก ตอนนี้ผมเองก็หามาใช้สักองค์ เพราะเป็นพระดีราคาไม่แพง ใส่ไปมาไม่ต้องระแวงให้เสียวสันหลัง

สาเหตุหนึ่งที่ราคาชินราชเข่าจมราคาไม่สูงและขยับตัวไปช้า นอกจากความงามซึ่งไม่อาจสู้ชินราชเข่าลอยได้แล้ว ก็มีปัจจัยจากชื่อเข่าจมที่ทำให้บางท่านคิดว่าไม่เป็นมงคลเหมือนเข่าลอย ทำให้ปัจจุบันมีความพยายามที่จะเรียกพระรุ่นนี้เสียใหม่ว่าชินราชเข่าราบ เพื่อให้คล้องกับคำว่าเข่าลาภ อันอาจน่าบูชายิ่งขึ้น ดังนั้นหากเจอท่านเซียนไหนเรียกแบบนี้ก็ให้ทราบว่าเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ส่วนตัวไม่ว่ายุคไหนหรือเรียกว่าอะไรก็เป็นพระที่น่าบูชารุ่นหนึ่งเพราะความงามคลาสสิคแบบหล่อโบราณและบารมีหลวงพ่อเงินที่เรานับถือ คนโบราณบางคนคุยกันเองว่าหลวงพ่อลงกวนโลหะเองด้วยซ้ำ ว่ากันไปครับ(ขอบคุณข้อมูลgoogel)
....สภาพน่ารัก ดูง่าย ตลับเงินยกซุ้มอย่างดีพร้อมบัตรรับรองพระแท้...
ผู้เข้าชม
423 ครั้ง
ราคา
8000
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
ร้านค้า
-
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
0853783943
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
744-2-522xx-x

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
อาร์ตกำแพงเพชรภูมิ IRจิ๊บพุทธะมงคลศิษย์บูรพาเปียโนjazzsiam amulet
โกหมูว.ศิลป์สยามfuchoo18ยอด วัดโพธิ์boonyakiatchaithawat
Aa2244หริด์ เก้าแสนพรรษาNongBossNithipornแมวดำ99
อ้วนโนนสูงchathanumaanพีพีพระสมเด็จพีพีพระเครื่องยุ้ย พลานุภาพLe29Amulet
เจริญสุขบ้านพระสมเด็จก้อง วัฒนาบ้านพระหลักร้อยชา วานิชชาวานิช

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1550 คน

เพิ่มข้อมูล

พระพุทธชินราชเข่าจม(เข่าราบ) หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระพุทธชินราชเข่าจม(เข่าราบ) หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
รายละเอียด
พระพุทธชินราชเข่าจมนั้นเชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อราวปี 2480 และได้มีการสร้างขึ้นอีกหลายครั้ง จึงพอแบ่งช่วงการสร้างออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกคือปี 2480 ถึงปี 80 กว่าๆ และช่วงกลางว่ากันว่าราวปี 2490 กว่า และอีกครั้งคือหลังปี 2500 ที่ชัดเจนที่สุดคือที่ได้บรรจุกล่องพระชุดปี 2517

พระพุทธชินราชเข่าจมนั้นเป็นพระที่ว่ากันว่ามีการสร้างกันภายในวัดดอนยายหอม โดยวิธีหล่อช่อ อาศัยโลหะที่เหล่าชาวบ้านได้บริจาคให้กับหลวงพ่อเงิน เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ที่ลงแรงและลงทรัพย์ในการจัดสร้างโบสถ์วัดดอนยายหอม จึงทำให้เนื้อหาแต่ละองค์ค่อนข้างจะต่างกันไป โดยแต่ละครั้งที่สร้างหลวงพ่อจะสร้างไม่เยอะนัก ได้พระเป็นหลักสิบหรือน้อยเศษในแต่ละครั้งเท่านั้น

พุทธลักษณะด้านหน้าเป็นพระพุทธปางมารวิชัย นั่งบนฐานบัวมีเปลวรัศมีคล้ายพระเพลิงปกคลุมอยู่ ด้านหลังจะปรากฏยันต์ทั้งหมด 4 ตัว คือ ตัวอุณาโลมที่อยู่บนสุด มีตัว มิ อยู่ใต้อุณาโลม และแถวสุดท้ายสองตัวคือตัว นะ นะ รูปทรงมีทั้งแบบทรงน้ำเต้าสามชั้นยอดแหลม และแบบสามเหลี่ยม ขอบข้างมีรอยประกอบ และที่ก้นจะมีรอยตะไบหยาบทุกองค์

เนื้อหาเป็นโลหะผสมออกหลายวรรณะ ซึ่งขอแบ่งในหมวดแยกแยกยุค ซึ่งจากที่ถามเซียนสายนครปฐมมา 3-4 คน เขาก็แยกพระยุคต้นหรือในช่วงปี 80กว่า กันหลายแบบ เช่นบางคนว่ายุค 80 กว่าๆ ต้องมีจุดที่บริเวณหน้าอกพระพุทธและต้องเป็นโลหะผิวออกแดงเข้ม เพราะพระยุคกลางจะมีจุดเช่นกันแต่สีผิวออกเหลือง เนื่องจากช่วงแรกที่จัดสร้างได้รับบริจาคโลหะพวกทองแดงมามาก ส่วนช่วงปี 9 กว่านั้นได้โลหะที่เหลือจากการสร้างโบสถ์และพระประธานมาเยอะทำให้แก่ทองเหลือง ในขณะที่อีกทางหนึ่งว่ายุคแรกจะมีจุดหรือไม่มีจุดก็ได้ แต่องค์พระต้องล่ำหนา และลึกไม่ตื้น ที่สำคัญต้องเนื้อออกแดงเข้ม ดังนั้นผู้เขียนพอสรุปได้ว่ายุคแรกต้องวรรณะออกแดงเข้มไว้ก่อน พระต้องล่ำและลึก ส่วนเรื่องจุดขอไม่ยืนยันไว้ผู้มีความรู้มาแจ้งแถลงไขให้ดีกว่า (อนึ่งหลายครั้งที่เห็นเซียนมันจะบอกว่าพระในมือต้นเองเป็นยุคต้น แม้เนื้อจะไม่สีแดง ตรงนี้ผมจึงขออนุญาตไม่ยืนยันข้อมูลนัก ทั้งหมดเป็นการถามจากพรรคพวกที่พอเป็นเซียนครับ)

ส่วนพระยุคกลางก็น่าจะลึกล่ำและวรรณะสีออกเหลือง ส่วนยุคท้ายเท่าที่เคยเห็นจะตื้นและองค์พระดูผอมบางและใบหน้าเรียวกว่า ส่วนผิวก็มีทั้งแบบทองเหลืองและออกขาวพรายคล้ายปรอท ส่วนตัวผมว่ายุคปลายที่ผิวเป็นพรายปรอทก็งามน่าใช้นะครับ ที่สำคัญราคาถูกดีด้วยตอนนี้ที่วัดดอนยายหอมเองยังเหลืออีกองค์ 2 องค์ ให้เช่าทำบุญในราคาองค์ละหนึ่งหมื่นบาทเท่านั้น

นอกจากนี้เองยังมีชินราชเข่าจมเนื้อแร่หรือเนื้อโลหะดิบที่มิได้ผ่านการถลุงมาก่อน ซึ่งเนื้อเหล่านี้จะแกร่งแต่เปราะ ซึ่งทั้งทางวัดและวงการยอมรับว่ามีการสร้างจริง เล่นหากันเป็นชิ้นเป็นอัน หายากกว่า แต่ราคาพอๆ กันคับ

อนึ่งชินราชเข่าจมเนื้อเมฆพัตนั้นอาจจะมีหลายท่านได้เคยพอเห็นมา คือเป็นชินราชเข่าจมเนื้อดำมัน แต่เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่เซียนสายตรงอยู่ว่า ชินราชเข่าจมเนื้อเมฆพัตนั้น มีออกที่วัดหรือไม่ บ้างว่าไม่มีออกเลย บางว่ามีออกมาในยุคหลัง ดังนั้นจึงต้องไม่มีจุดที่หน้าอก แต่ส่วนตัวผู้เขียนเคยเห็นแบบที่มีจุดที่หน้าอก และหันซ้ายหันขวาก็น่าจะดีและแท้ แต่เขาว่ากันว่าอุปโลกน์ขึ้นมา ส่วนตัวผมขอไม่ออกความเห็นอะไรครับ ไม่ทราบจริงๆ และขออภัยหากการให้ข้อมูลนี้บางท่านอาจไม่ชอบใจ เป็นการว่ากันไปตามข้อมูลของเซียนสายนี้เขาว่ากันครับ

ในส่วนของชินราชเข่าจมพิมพ์สองหน้าก็มีเช่นกัน แต่หายากมากเรียกได้ว่ายากกว่าชินราชเข่าลอยสองหน้าเสียอีก เพราะส่วนตัวเคยพบเห็นแค่ครั้งเดียว จีบเขาไปที่ ห้าหมื่นก็ยังนิ่ง(ราคาเข่าจมตอนนั้นว่ากันที่พันปลายเท่านั้นเอง) และอีกทีก็มีพี่ท่านหนึ่งในเว็บสยามอมูเล็ทเรานี่เองที่เคยมาแจมลงโชว์ไว้ พยายามจีบแต่ไม่กล้ามากเกรงใจพี่ท่าน หวังว่าหากท่านได้แวะเข้ามาชมจะได้ลงโชว์อีกสักครั้งเป็นบุญตาครับ

สนนราคา ต้องยอมรับว่าชินราชเข่าจมนั้นขยับตัวช้ากว่าพระหล่อโบราณของหลวงพอเงินอยู่มาก ราคาปัจจุบัน หากเป็นพระยุคต้นและยุคกลาง(ไม่รู้จะแยกต้นกับกลางทำไม ราคาก็เท่าๆ กัน) งามๆ ไปหยุดที่ราวสองหมื่นกว่าบาท หากมีบุกกันเกินไปบ้างกับองค์ที่งามและเจอผู้ที่ชอบอย่างแท้จริง แต่กระนั้นส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ราวหมื่นเศษเท่านั้น ส่วนองค์ที่หย่อนงามหรือยุคปลายก็อยู่ที่ราวพันกลางถึงพันปรายเท่านั้นเอง ถือว่าเป็นพระดีที่หามาครอบครองได้โดยไม่แพงนัก ตอนนี้ผมเองก็หามาใช้สักองค์ เพราะเป็นพระดีราคาไม่แพง ใส่ไปมาไม่ต้องระแวงให้เสียวสันหลัง

สาเหตุหนึ่งที่ราคาชินราชเข่าจมราคาไม่สูงและขยับตัวไปช้า นอกจากความงามซึ่งไม่อาจสู้ชินราชเข่าลอยได้แล้ว ก็มีปัจจัยจากชื่อเข่าจมที่ทำให้บางท่านคิดว่าไม่เป็นมงคลเหมือนเข่าลอย ทำให้ปัจจุบันมีความพยายามที่จะเรียกพระรุ่นนี้เสียใหม่ว่าชินราชเข่าราบ เพื่อให้คล้องกับคำว่าเข่าลาภ อันอาจน่าบูชายิ่งขึ้น ดังนั้นหากเจอท่านเซียนไหนเรียกแบบนี้ก็ให้ทราบว่าเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ส่วนตัวไม่ว่ายุคไหนหรือเรียกว่าอะไรก็เป็นพระที่น่าบูชารุ่นหนึ่งเพราะความงามคลาสสิคแบบหล่อโบราณและบารมีหลวงพ่อเงินที่เรานับถือ คนโบราณบางคนคุยกันเองว่าหลวงพ่อลงกวนโลหะเองด้วยซ้ำ ว่ากันไปครับ(ขอบคุณข้อมูลgoogel)
....สภาพน่ารัก ดูง่าย ตลับเงินยกซุ้มอย่างดีพร้อมบัตรรับรองพระแท้...
ราคาปัจจุบัน
8000
จำนวนผู้เข้าชม
435 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
URL
-
เบอร์โทรศัพท์
0999309839
ID LINE
0853783943
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
2. ธนาคารกสิกรไทย / 744-2-522xx-x




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี